สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ
ประกันการศึกษาบุตร สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม ?
 
ประกันการศึกษาบุตร สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม
 

ประกันการศึกษาบุตรเป็นการลงทุนที่สำคัญสำหรับอนาคตของลูก ๆ

โดยเฉพาะในยุคที่ค่าการศึกษามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การทำประกันการศึกษาสามารถช่วยให้พ่อแม่มั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลูก ๆ จะได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นี่คือเหตุผลและประโยชน์ที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม:
 

ประโยชน์ของประกันการศึกษาบุตร

  1. ความมั่นคงทางการเงิน:

    • ให้ความมั่นใจว่าลูกจะได้รับการศึกษาที่ดีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
    • ช่วยลดภาระทางการเงินในอนาคต เมื่อค่าใช้จ่ายการศึกษาเพิ่มขึ้น
  2. การคุ้มครองในกรณีฉุกเฉิน:

    • หากผู้ปกครองเสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ ประกันการศึกษาจะช่วยให้ลูกได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
    • มีความคุ้มครองในกรณีทุพพลภาพของผู้ปกครอง ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการศึกษา
  3. การออมเงินระยะยาว:

    • ประกันการศึกษาบางประเภทมีลักษณะคล้ายการออมเงิน ทำให้ผู้ปกครองสามารถสะสมเงินออมสำหรับการศึกษาของลูก
    • เงินที่สะสมสามารถใช้เป็นทุนการศึกษาสำหรับระดับที่สูงขึ้น เช่น มหาวิทยาลัย หรือศึกษาต่อต่างประเทศ
  4. ผลตอบแทนจากการลงทุน:

    • บางประเภทของประกันการศึกษามีการลงทุนเพิ่มเติม ทำให้ผู้ปกครองได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
  5. ความยืดหยุ่นในการเลือกแผนประกัน:

    • มีหลายประเภทของประกันการศึกษา เช่น ประกันสะสมทรัพย์, ประกันควบการลงทุน หรือประกันชีวิตที่มีผลประโยชน์การศึกษา

 

ประเภทของประกันการศึกษาบุตร

  1. ประกันชีวิตควบการออมทรัพย์ (Endowment Policy):

    • เน้นการออมเงินเพื่อการศึกษาของบุตร พร้อมกับมีการคุ้มครองชีวิต
    • เมื่อถึงอายุที่กำหนด ผู้ปกครองจะได้รับเงินก้อนเพื่อใช้เป็นทุนการศึกษา
  2. ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked Insurance Plan):

    • มีการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทน
    • มีความเสี่ยงมากกว่าประกันสะสมทรัพย์ แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่า
  3. ประกันชีวิตแบบมีกำหนดระยะเวลา (Term Life Insurance):

    • คุ้มครองชีวิตของผู้ปกครองในระยะเวลาที่กำหนด
    • หากผู้ปกครองเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด ลูกจะได้รับเงินคุ้มครองเพื่อการศึกษา

 

ข้อควรพิจารณาในการเลือกประกันการศึกษาบุตร

  1. ความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน:

    • ตรวจสอบว่าคุณสามารถชำระเบี้ยประกันได้อย่างต่อเนื่อง
    • เลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับงบประมาณและรายได้
  2. ระยะเวลาคุ้มครอง:

    • ตรวจสอบระยะเวลาคุ้มครองว่าครอบคลุมช่วงเวลาที่ลูกจะต้องใช้เงินเพื่อการศึกษาหรือไม่
  3. ผลตอบแทนและค่าธรรมเนียม:

    • เปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนและค่าธรรมเนียมในการทำประกัน
    • เลือกแผนประกันที่มีผลตอบแทนเหมาะสมและค่าธรรมเนียมไม่สูงเกินไป
  4. ความคุ้มครองเพิ่มเติม:

    • ตรวจสอบว่ามีความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีทุพพลภาพหรือเจ็บป่วยที่ทำให้ไม่สามารถทำงานได้หรือไม่
  5. เงื่อนไขและข้อกำหนด:

    • อ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขและข้อกำหนดของกรมธรรม์ให้ละเอียด
    • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทประกันหากมีข้อสงสัย


การทำประกันการศึกษาบุตรเป็นการวางแผนที่ดีเพื่อให้มั่นใจว่าเด็ก ๆ จะได้รับการศึกษาที่ดีและมีอนาคตที่มั่นคง ไม่ว่าผู้ปกครองจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ใดในอนาคต

หมายเหตุ แผนที่วางไว้เป็นเพียงแนวทางในการวางแผนการเงินที่ถูกต้องตามหลักการ ทั้งนี้ การวางแผนการเงินของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการนำไปปรับใช้ตามสถานการณ์และความต้องการของแต่ละคน

#ThaiPFA #การเงิน #นักวางแผนการเงิน #CFP #นักวางแผนการเงินCFP #วางแผนการเงิน #ที่ปรึกษาการเงิน  #Sharing  #ThaiPFAsharing #ศูนย์อบรมต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทยที่จัดอบรมและพัฒนาหลักสูตรนักวางแผนการเงินCFP
 
www.thaipfa.co.th

ThaiPFA NEWS

เรื่องราวดีๆ ที่อยากบอกเล่า พร้อมข่าวสารและสาระดีๆ ทางการเงิน

ผลงานที่ผ่านมา
portfolio
  • In-House Training, Public Training และบริษัทอื่นๆ...

ความคิดเห็นของผู้เข้าอบรม

หลากหลายความประทับใจ และ คำแนะนำให้อบรมหลักสูตรการวางแผนการเงิน CFP
และหลักสูตรการเงินอื่นๆ กับ ThaiPFA