13 มกราคม 2563
วันที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่อาจทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปในวันดังกล่าวกระทรวงสาธารณสุขได้แถลงยืนยันพบผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รายแรกในประเทศไทยโดยเป็นหญิงชาวจีนวัย 61 ปีเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ต่อมา 17 มกราคม 2563 นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 74 ปี ได้พบเป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ในประเทศไทย ตามมาด้วยผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นคนไทยรายแรก โดยเป็นชาว จ.นครปฐม ซึ่งมีประวัติเดินทางไปเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
ขยายวงกว้างขึ้นทั่วโลกและมีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม เริ่มต้นจากภาคบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 12 ของ GDP นักท่องเที่ยวหดหาย ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวซบเซากะทันหัน ต่อมาผลกระทบขยายวงไปยังภาคการอุตสาหกรรมทำให้ห่วงโซ่การผลิตและ การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศขาดตอน การค้าระหว่างประเทศหยุดชะงัก ทั้งนี้ก่อนเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เศรษฐกิจไทยก็อยู่ในภาวะที่ต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งภายในประเทศที่กัดกร่อนเสถียรภาพของประเทศไทยมานานว่าทศวรรษจากความไม่แน่นอนทางทางการเมืองและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ

 

และการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นล่าสุดยังเกิดสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ท้ายที่สุดผู้ประกอบการขาดรายได้ สภาพคล่องไม่เพียงพอมีความเสี่ยงถึงขั้นปิดกิจการ ตลอดจนประชาชนทั่วไปขาดรายได้เผชิญความเสี่ยงอาจถูกเลิกจ้างงานจำนวนหลายแสนคนปัจจัยต่างๆเหล่านี้ส่งผลกระทบกับคนไทยทุกภาคส่วนทำให้ทุกวันนี้คนไทยบางกลุ่มยังคงมีงานทำมีเงิน (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีงานทำมีเงินใช้ได้อีกกี่สัปดาห์อีกกี่เดือนท่ามกลางการปิดกิจการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง)แต่คนไทยบางกลุ่มวันนี้ถึงแม้จะยังคงมีงานทำ แต่อาจไม่มีเงิน เพราะธุรกิจขาดรายได้ทำให้ต้องเกิดผลกระทบให้พนักงานต้อง Leave without pay และคนไทยบางกลุ่มวันนี้ไม่มีงานทำไม่มีเงิน วิกฤติจากไวรัสร้ายและวิกฤติทางการเมืองกำลังซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจ และอาจลุกลามไปสู่วิกฤติทางสังคมคำถามที่คนไทยจำนวนมากอยากรู้ก็คือว่าเราจะมีวิธีการทำให้ตัวเองมีเงินมีกินมีใช้อยู่รอดได้ท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกกี่สัปดาห์หรือกี่เดือนจนกว่าเราจะกลับมาใช้ได้ชีวิตได้ตามปกติ

 

เคล็ดลับที่จริงๆก็ไม่ลับ แต่เป็นวิธีการง่ายๆที่จะช่วยนำพาชีวิตของเราให้อยู่รอดพ้นวิกฤต COVID-19 ร่วมกันไปได้ ก็คงหนีไม่พ้น กลยุทธ์ 1 ลด 1 เพิ่มที่หลายคนเคยได้ยินแต่ไม่เคยตั้งใจฟังแค่ได้ยินผ่านๆแต่ไม่ได้นำไปตีความจนเข้าใจให้เกิดการตอบสนอง วันนี้เราลองมาตั้งใจฟังกันครบว่ากลยุทธ์ 1 ลด 1 เพิ่มที่เหมือนเป็นเคล็ดลับแต่ไม่ลับที่ว่านี้จะช่วยนำพาเราให้รอดพ้นวิกฤต COVID-19 ได้อย่างไร 1 ลด ที่ว่าก็คือการลดรายจ่ายที่เราทุกคนสามารถทำได้ทันทีเดี๋ยวนี้หลังจากที่ได้ฟัง และ 1 เพิ่มที่ว่าก็คือการเพิ่มรายได้ที่แม้อาจต้องใช้เวลาในการเตรียมการอยู่บ้างแต่ก็อาจไม่ได้ยาวนานเป็นสัปดาห์เป็นเดือนเป็นปีอย่างที่เรามองข้ามกันไป

 

  เริ่มต้นการมีชีวิตอยู่ได้จนรอดพ้นวิกฤต COVID-19 ง่ายที่สุดที่เราทุกคนสามารถเริ่มต้นทำกันได้ทันทีเดี๋ยวนี้ก็คงหนีไม่พ้นการลดรายจ่ายต่างๆทั้งนี้เราทุกคนคงต้องยอมรับกันว่าในช่วงนี้วิถีชีวิตเราอาจไม่สุขสบายเหมือนเดิม

แต่นี่ก็อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เรารู้จักตัวเองกันมากขึ้นจากเดิมที่เราไม่เคยรู้เลยว่าในชีวิตแต่ละวันเราใช้เงินกันเท่าไรเราใช้จ่ายเงินกันตามความจำเป็นหรือความต้องการ COVID-19 ทำให้เราทุกคนได้มีเวลาหยุดคิดทบทวนว่าการใช้ทรัพยากรต่างๆบนโลกนี้ที่เราคิดว่าใช้เงินของเราเรื่องของเรามันเป็นการใช้จ่ายเงินและทรัพยากรของโลกนี้ให้หมดสิ้นไปโดยไม่จำเป็นหรือไม่จะมีประโยชน์อะไรที่เราจะเหนื่อยสายตัวแทบขาด บ้านแตกสาแหรกขาดพ่ออยู่ที่หนึ่ง แม่อยู่อีกที่หนึ่ง ลูกอยู่อีกที่หนึ่งเพื่อร่วมกันหาเงินทองเป็นจำนวนมากแต่แล้วเงินทองที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายและความอบอุ่นสายใยในครอบครัวกลับถูกนำไปใช้กับสิ่งที่ไม่จำเป็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ทั้งปียังไม่ซ้ำรองเท้าที่เปลี่ยนแทบทุกวันทั้งที่อาจมีไม่กี่คนที่จะสนใจเราจากหัวจรดเท้าจนเห็นการ match กันระหว่างเสื้อผ้าเครื่องประดับและรองเท้ารวมไปถึงกระเป๋าสตางค์ที่อาจมีมูลค่าสูงกว่าเงินทองของมีค่าที่บรรจุอยู่

ภายในขนมนมเนยเครื่องขบเคี้ยวต่างๆที่เราอาจทานไปเพียงไม่กี่ชิ้นแล้วทิ้งไว้จนกลายเป็นขยะที่ไม่มีใครต้องการกาแฟแก้วละเกินร้อยที่เราอาจดื่มลิ้มรสและดมกลิ่นหอมเพียงชั่วครู่จนความร้อนและความเย็นเลยจุดที่ชวนลิ้มลองจนต้องซื้อใหม่วันละสองสามครั้งเงินทองที่หามาอย่างยากลำบากหากเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับการหาบน้ำจากที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นลำธารที่อยู่ห่างไกลออกไปจนถึงแม่น้ำที่อยู่บนภูเขาเพื่อนำมารวบรวมใส่ตุ่มหนึ่งใบแต่บังเอญที่ว่าตุ่มใบดังกล่าวเต็มไปด้วยรูรั่วจำนวนมากมายทำให้ตักน้ำมาเติมเท่าไรก็ไม่เต็มเริ่มต้นกันที่วินาทีนี้ที่ผมอยากให้เราลองมาจดบันทึกเพื่อสำรวจรูรั่วทางการเงินกันว่าตุ่มรายได้ของเราสูญเสียกับไปรูรั่วรายจ่ายอะไรบ้างเป็นจำนวนเท่าไรและรายจ่ายรายการใดจำนวนไหนที่เราสามารถลดละเลิกได้บ้างง่ายๆเพียงแค่นี้คุณก็อาจพลิกวิกฤต COVID-19ให้กลับกลายมาเป็นโอกาสที่จะทำให้คุณเดินเข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีหลังวิกฤตได้อย่างง่ายดายการสำรวจรายจ่ายของตัวเองนี้จะว่าง่ายก็ง่ายเพราะเป็นข้อมูลการใช้จ่ายส่วนตัวของเราเอง แต่จะว่ายากก็ยากเพราะเรามักไม่ค่อยทำการจดบันทึกรายจ่ายทำให้บางครั้งอาจมีบางวันที่เราเองยังคงสงสัยว่าเงินสดในกระเป๋าหายไปไหนหมด ตัวช่วยหนึ่งที่อาจย้อนรำลึกรายการใช้จ่ายส่วนตัวที่ดีอาจได้แก่ statement บัตรเครดิตที่จะสรุปยอดรายการใช้จ่ายต่างๆที่ผ่านมาในแต่ละเดือน หลังจากที่เราทำการสำรวจรายจ่ายแล้ว การลดรายจ่ายแบบที่ใครๆก็ทำได้ทันทีเพื่อให้เรามีเงินกินใช้จนมีชีวิตรอดพ้นจากวิกฤต COVID-19
ก็คงไม่พ้นรายจ่ายผันแปรที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลตามอำเภอใจของเราเริ่มต้นตั้งแต่ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ตื่นเช้ามาล้างหน้าแปรงฟ้นแทนที่จะใช้มือรองน้ำมาบ้วนปากล้างหน้าก็ลองหาแก้วหาขันมารองน้ำไว้บ้วนปากล้างหน้าไม่เปิดน้ำจากก๊อกให้ไหลทิ้งไม่จำเป็นระหว่างวันจะติดต่อสื่อสารกับใครแทนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือที่จ่ายกันเป็นนาที

ถ้าคุยนานก็ลองหันกลับมาใช้โทรศัพท์บ้านที่คิดค่าบริการเป็นต่อครั้งหรือเลือกใช้การพูดคุยสนทนาผ่าน Social Media ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Line Call Face Time หรือ Messenger รวมทั้งเลือกใช้โปรโมชั่นค่าโทรศัพท์และค่าอินเตอร์เน็ตที่เหมาะสม ลองยกหูโทร.หา Call Center ปรึกษาว่ามีโปรโมชั่นอื่นที่เหมาะสมกว่าเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงหรือไม่รับรองได้ว่าประหยัดเพิ่มขึ้นอีกแน่นอนนอกจากนั้นช่วงนี้อากาศร้อนๆก็ลองปิดเครื่องทำน้ำอุ่นอาบน้ำเย็นๆเพิ่มความสดชื่น

แถมพอตกกลางคืนไฟดวงไหนไม่จำเป็นก็ปิดทุกครั้งเมื่อไม่ใช้อากาศไม่ร้อนอบอ้าวก็ลองเปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆตามธรรมชาติลดค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศ นอกจากค่าสาธารณูปโภคยังมีค่าอาหารที่เราสามารถลดได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการเลือกทานร้านโปรดตามโปรโมชั่น เช่นกาแฟเงือกสาวเจ้าดังก็มักมีโปรโมชั่น 1 แถม 1 อยู่เรื่อยๆร้านอาหารชื่อดังก็ยังมีโปรโมชั่นลดราคาเป็นประจำ

รวมทั้งการสั่งอาหารDelivery ก็มี Deal ดีๆใกล้ๆบ้านที่ลดราคาอยู่เรื่อยๆและค่าส่งก็ไม่แพงเพียงแค่เลือกทานอาหารตามฤดูกาลตามโปรโมชั่นเราก็สามารถลดค่าอาหารได้โดยที่ยังสามารถทานร้านดังที่ต้องการได้ตามใจปากเหมือนเดิมส่วนถ้าใครจะเปลี่ยนใจเลือกทานอาหารร้านแถวบ้านที่อาจไม่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักก็อาจลดค่าใช้จ่ายได้อีกมากแถมช่วงนี้ถ้าอยู่บ้านทำอาหารรับประทานเองก็อาจได้อาหารที่ถูกและดีเพราะเราทำเองย่อมมีความสะอาดแน่นอนแต่ทานได้หรือไม่อันนี้ต้องใช้วิจารณญานส่วนบุคคลแล้วครับนอกจากนั้นการเข้าร้านสะดวกซื้อที่คิดไปก่อนว่ามีของจำเป็นอะไรต้องใช้จ่ายแล้วมุ่งตรงไปยังShelf นั้นเท่านั้นทันทีนอกจากจะประหยัดเวลาก็ยังอาจช่วยทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียวเพราะคุณก็อาจจะไม่ต้องเสียเงินกับน้ำหวานราคาแพงของคบเคี้ยวถุงละหลายสิบ ประหยัดเงินแล้วก็ยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วยเรื่องง่ายๆที่แค่เพิ่มความใส่ใจเล็กน้อยเหล่านี้แต่ยังคงทำให้เรา

สามารถดำรงวิถีชีวิตเดิมๆต่อไปได้ก็รวมๆแล้วอาจลดรายจ่ายให้เราเป็นหลักร้อยหรือหลักพันต่อเดือนก็เป็นได้นะครับเคล็ดลับถัดมาที่จะทำให้เราอยู่รอดมีเงินกินมีเงินใช้จนพ้นวิกฤต COVID-19 ก็คงไม่พ้นการเพิ่มรายได้ซึ่งบางคนอาจรู้สึกต่อต้านทันทีว่าทำได้ยากและช้า แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจริงการเพิ่มรายได้ภายใต้วิกฤต COVID-19 ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะคิดว่าไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีปกติแล้วรายได้ของเราอาจมีแหล่งที่มาได้จาก 3 ทางด้วยกันไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการจ้างงาน รายได้จากการลงทุนและรายได้อื่นๆที่อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวซึ่งในภาวะปกติรายได้อื่นๆนี้อาจไม่ใช่แหล่งรายได้หลัก แต่ท่ามกลางวิกฤต COVID-19

การหารายได้อื่นๆนี้ก็ไม่สามารถมองข้ามได้เช่นกัน บางคนอาจบอกว่าวิกฤต COVID-19 ทำให้เราไม่มีงาน แล้วเราจะเพิ่มรายได้จากการจ้างงานได้ยังงัย คำตอบเรื่องนี้ผมอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าบางครั้งประตูที่ถูกปิดบานหนึ่งอาจทำให้ประตูอีกบานเปิดขึ้นก็ได้ จริงๆแล้วในช่วงวิกฤต COVID-19 นี้กลับสร้างโอกาสในการจ้างงานด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งอาหารจากร้านค้าไปยังที่พักอาศัยการรับส่งอาหารโดยใช้มอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ที่เรามีอยู่แต่ไม่ได้ใช้เพราะไม่มีงานทำก็อาจช่วยทำให้เราสามารถมีรายได้จากการจ้างงานด้วยการทำหน้าที่ Delivery ให้กับร้านค้าหรือแอปพลิเคชั่นต่างๆอย่างเป็นกอบเป็นกำทีเดียวอย่างไรก็ตามใครที่สนใจโอกาสดังกล่าวนี้ก็คงต้องระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษไม่ให้ติดเชื้อไวรัสด้วยนะครับ

นอกจากโอกาสสำหรับตำแหน่งงาน Deliveryต่างๆ ก็ยังเป็นโอกาสในการทำงานเกี่ยวกับออนไลน์ต่างๆโดยเฉพาะโปรแกรมเมอร์ที่เขียนความสามารถในการเขียนโปรแกรมสำหรับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆรองรับการทำงานที่บ้าน Work From Home และการประชุมออนไลน์นอกจากนั้นเมื่อธุรกิจไม่สามารถดำเนินไปในช่องทางปกติในอีกมุมหนึ่งก็เปิดโอกาสเตือนให้เราเร่งปรับตัว Transform ตัวเองเข้าสู่ระบบออนไลน์ก่อนที่จะถูก Disrupt ในอนาคตสำหรับคนที่ไม่เชื่อว่าประตูที่ปิดลงบานหนึ่งกำลังเปิดประตูอีกบานให้กับเราลองดูตัวอย่างของกอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

ถึงแม้แสงไฟและไมโครโฟนจะถูกปิดลงในช่วงนี้ กอล์ฟฟักกลิ้งฮีโร่ก็เปิดประตูสร้างรายได้ด้วยการผันตัวเองจากนักร้องแร็ปเปอร์ชื่อดังไปเป็นพ่อค้าขายหมูปิ้งซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนถึงขั้นมีคนมาติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์หลังจากเปิดแผงขายเพียงไม่กี่วันอย่างไรก็ตามสำหรับใครที่ยังมองหาประตูบานใหม่ไม่เจอก็อย่าลืมเตรียมความพร้อมว่าเมื่อประตูบานเดิมเปิดเมื่อไรเราจะออกสตาร์ทวิ่งให้เร็วกว่าคนอื่น ลองใช้เวลานี้ Reskill ตัวเองปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของเราถือซะว่าช่วงนี้เป็นช่วงการเก็บตัวของนักกีฬาที่จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความพร้อมเมื่อสนามจริงเริ่มต้นในอีกไม่ช้า

ภายใต้วิกฤต COVID-19 ที่ทำให้ทรัพย์สินสำหรับการลงทุนในทางเลือกต่างๆปรับตัวลดลงเกือบ ครึ่งหนึ่ง อาจเป็นช่วงจังหวะที่ทำให้หลายคนเข็ดขยาดกับการลงทุน แต่สำหรับคนที่มีการกระจายการลงทุน จัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เงินฝากตราสารหนี้ และตราสารทุน ก็อาจพลิกวิกฤต COVID-19 ให้กลายเป็นโอกาสทองในการเพิ่มรายได้จากการลงทุนเนื่องจากบริษัทหลายๆบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอาจมีราคาปรับตัวลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงทำให้คนที่มีเงินฝากเหลืออยู่สามารถแบ่งเงินฝากที่เหลืออยู่บางส่วนมาลงทุนในตราสารทุน หลังจากที่วิกฤต COVID-19 ผ่านพ้นไปก็อาจทำให้ได้รับอัตราผลตอบแทนคุ้มกับความเสี่ยงอย่างที่ไม่คาดคิดเลยทีเดียว

 

จะเห็นได้ว่าภายใต้วิกฤต COVID-19 ทำให้ชีวิตคนไทยหลายๆคนเดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยนซึ่งบางคนอาจยังไม่เคยตระเตรียมแผนทางการเงินความทุกข์ที่เราไม่เคยคิดว่าจะมาเมื่อไรเมื่อเกิดขึ้นในวันนี้เราก็คงต้องยอมรับความจริงที่เจอให้ได้ และบอกกับตัวเองว่ามรสุมที่เข้ามาในชีวิตในวันนี้อีกไม่นานมรสุมก็จะออกไปเหลือไว้เป็นประสบการณ์ให้เราเรียนรู้และเพิ่มความสามารถในการรับมือกับวิกฤตที่จะเข้ามาอีกครั้งในอนาคตที่ยังไม่รู้อีกเช่นกันว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรชีวิตคนเราก็จะมีทั้งความสุขและความทุกข์เช่นนี้วนเวียนกันไปขอเพียงแค่เราใช้สติแก้ปัญหาที่ทำให้เกิดความทุกข์ในครั้งนี้ผมเชื่อเหลือเกินว่าความสุขยังคงรอเราอยู่ในวันข้างหน้าเสมอครับ